RADIESSE VS FILLER

อยากหน้าฟู หน้าเด็ก ต้องฉีดอะไรดีคะ???แล้ว RADIESSE ต่างจาก FILLERยังไง????

ใครที่เคยศึกษาการฉีดหน้าที่ให้ผลลัพธ์ออกมาหน้าฟู หน้าอิ่ม หน้าเด็ก ก็อาจจะเคยได้ยินชื่อหัตถการ2อย่างนี้มาแล้วอย่างแน่นอน และก็อาจจะสงสัยกันว่า มันแตกต่างกันยังไงนะ??

วันนี้ BLUE APPLE CLINIC จะมาไขข้อสงสัยกัน

RADIESSE มีส่วนประกอบหลักเป็น CaHA ส่วนFILLERอื่นๆ มีส่วนประกอบหลักเป็น HA (เช่น JUVEDERM, Restylane) ซึ่ง CaHA จะดีกว่าในส่วนของการกระตุ้นคอลลาเจนไปพร้อมกับการเพิ่มวอลลุ่มคือ 1 – 2 ปี ส่วนFILLERแบบ HA มักจะไม่เกิน 1 ปี

ระยะเวลาการสลาย   RADIESSE มีระยะการสลายที่นานกว่าคือ 1 – 2 ปี ส่วนFILLERแบบ มักจะไม่เกิน 1 ปี

ลักษณะเนื้อสัมผัส   RADIESSE จะมีความแข็งมากกว่าจึงเหมาะกับการฉีดในร่องลึก และผิวที่ขาดวอลลุ่ม ส่วน filler จะมีเนื้อที่เหมาะกับหลากหลายบริเวณสามารถเลือกฉีดได้ตามความเหมาะสม

  • ผลลัพธ์ที่ได้หลังกหลังให้วิตามินผิวควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดที่แรงจัด เพื่อป้องกันผิวถูกทำร้ายจากแสงแดด หรือควรทาครีมกันแดดเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ผิวนั้นกลับมาคล้ำเสียอีกได้
  • งดการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากมีสารที่เป็นอันตรายต่อผิวและร่างกาย ทำให้ผิวถูกทำร้ายได้
  • ควรดื่มน้ำประมาณ 1-2 ลิตร เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว
  • หลังทำเสร็จให้งดการกด นวด หรือถูบริเวณที่ทำ
  • หลังทำเสร็จอาจเกิดรอยแดง เขียวช้ำจากเข็มตรงบริเวณที่ทำได้ แต่จะค่อยๆ ดีขึ้นได้เอง

การฉีด  RADIESSE จะให้ผลลัพธ์ออกมาดูเติมเต็มทันที และยังสามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาวอีกด้วย แต่ในส่วนของFILLERนั้น จะสามารถช่วยได้แค่ในเรื่องของการเติมเต็มเพียงอย่างเดียวจะเห็นได้ว่าทั้ง2ตัวนั้นมีข้อดีที่แตกต่างกันไป ใครที่ยังลังเลว่าควรฉีดอะไรดี ก็สามารถเข้ามารับคำปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเรา ได้ฟรี !!!! ที่ BLUE APPLE CLINIC

แชร์บทความนี้: